บริการหลักของ ไชด์ สเปซ คลินิก สาขาขอนแก่น

ตรวจรักษาโดยจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น

สมาธิสั้น

อยู่ไม่นิ่ง จดจ่อไม่ได้ นั่งไม่นาน พูดแทรกบ่อย ทำงานไม่ค่อยเสร็จ ลืมของบ่อย

ออทิสติก

เรียกชื่อไม่ค่อยหัน ไม่สบตา เล่นคนเดียว พูดซ้ำๆ สนใจของเล่นแบบเดิมๆ ไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์คนอื่น

พัฒนาการล่าช้า

พูดช้ากว่าเด็กวัยเดียวกัน เดินช้า ทำอะไรยังไม่คล่องตามวัย เล่นไม่ค่อยเหมือนเพื่อน

บกพร่องการเรียนรู้

อ่านเขียนไม่ได้ตามเกณฑ์ สะกดคำผิดบ่อย คิดเลขไม่ถูก

ย้ำคิดย้ำทำ

คิดซ้ำเรื่องเดิมๆ เช่น กลัวสกปรก ล้างมือบ่อย ตรวจของซ้ำๆ ถ้าไม่ได้ทำจะกระวนกระวาย

ซึมเศร้าในวัยรุ่น

เศร้า เบื่อหน่าย เก็บตัว หงุดหงิดบ่อย ไม่อยากทำอะไรเหมือนเดิม นอนไม่หลับ ทำร้ายตนเอง

ปัญหาพฤติกรรมในเด็ก

ดื้อต่อต้าน พูดเชื่อฟัง ขัดใจง่าย ก้าวร้าวกับคนรอบตัว โวยวายบ่อย ไม่ชอบถูกสั่งหรือถูกขัดใจ

ปรึกษาจิตแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine)

ไม่ต้องท้อแท้กับการหาจิตแพทย์ใกล้ฉัน ระยะทางที่ไกล และข้อจำกัดด้านเวลา จะไม่เป็นอุปสรรคที่กั้นระหว่างคุณกับการพบจิตแพทย์ที่ Child Space อีกต่อไป

สามารถปรึกษาจิตแพทย์ออนไลน์ผ่าน VDO Call สะดวก ปลอดภัย ปรึกษาได้จากทุกที่ทั่วไทยและทั่วโลก

ประหยัดเวลา ไม่ต้องนั่งรอคิวนาน ไม่ต้องเสียค่าเดินทาง หากมีการจ่ายยาสามารถรอรับยาที่บ้านได้เลย

ทำให้จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นที่เชี่ยวชาญอยู่ใกล้คุณแค่ปลายนิ้ว

การฝึกพูด (อรรถบำบัด)

การฝึกทักษะการพูด การฟัง และการสื่อสารให้กับเด็ก โดยนักอรรถบำบัดจะช่วยฝึกตั้งแต่การออกเสียงให้ชัด การเรียงประโยค การเข้าใจคำสั่ง ไปจนถึงการสื่อสารความรู้สึกและความต้องการของตัวเอง

เหมาะกับ เด็กที่พูดช้ากว่าเกณฑ์ พูดไม่ชัด ติดอ่าง เรียงประโยคไม่ได้ พูดข้ามคำ เข้าใจคำสั่งยาก หรือฟังแล้วไม่ทำตาม สื่อสารกับคนอื่นได้ยาก ไม่กล้าพูด

จิตบำบัดโดยนักจิตวิทยา

จิตบำบัด (Psychotherapy) เป็นการรักษาหลักอีกรูปแบบหนึ่งนอกเหนือจากการใช้ยา เพื่อช่วยให้เราจัดการกับความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น เป็นการดูแลใจอย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่การให้คำปรึกษา แต่เป็นการเยียวยาและพัฒนาไปพร้อมกัน

การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม

หรือ จิตบำบัดแบบ CBT (Cognitive Behavioral Therapy)

ช่วยให้เข้าใจความคิด-พฤติกรรมที่ส่งผลต่ออารมณ์ และฝึกเปลี่ยนสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์

เหมาะกับ เด็กที่มีปัญหาทางด้านอารมณ์ วิตกกังวล ย้ำคิดย้ำทำ

หรือต้องการปรับความคิดและพฤติกรรมให้ดีขึ้น

จิตบำบัดแบบ EMDR

(Eye Movement Desensitization and Reprocessing Therapy)

ใช้การเคลื่อนไหวของตาเพื่อกระตุ้นให้สมองจัดการและเยียวยาความทรงจำที่เจ็บปวดอย่างเป็นธรรมชาติ

ลดผลกระทบของประสบการณ์รุนแรงที่ยังส่งผลในปัจจุบัน

เหมาะกับ เด็กที่เจอเหตุการณ์สะเทือนใจ เช่น อุบัติเหตุ การถูกกระทำรุนแรง หรือความสูญเสีย

การฝึกทักษะทางสังคม (Social Skill Training)

การฝึกทักษะการเข้าสังคมให้กับเด็ก เช่น การทักทาย การรอคิว การเล่นกับเพื่อน

เพื่อให้เด็กกล้าพูดคุย เข้าใจคนอื่น และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดีขึ้น

เหมาะกับ เด็กที่มีปัญหาการเข้าสังคมจากภาวะต่างๆ เช่น ออทิสติก วิตกกังวล

สติบำบัด (Mindfulness-based Therapy)

ใช้หลักการฝึกสติ ช่วยให้ตระหนักรู้ความรู้สึกและอยู่กับปัจจุบัน จัดการอารมณ์ได้เหมาะสม

เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการลดความเครียด วิตกกังวล ฝึกการจัดการอารมณ์

จิตบำบัดครอบครัว (Family Therapy)

เหมาะกับ ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์ในครอบครัว ลดความขัดแย้ง สร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน

ประเมินโดยเครื่องมือจิตวิทยา

การตรวจด้วยแบบทดสอบทางจิตวิทยา (Psychological Test) โดยนักจิตวิทยาคลินิกผู้เชี่ยวชาญ เป็นกระบวนการประเมินเพื่อช่วยทำความเข้าใจพฤติกรรม ความคิด อารมณ์ และพัฒนาการของเด็กอย่างลึกซึ้ง เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เรามองเห็นศักยภาพเด็กและช่วยในการวางแผนดูแลและส่งเสริมได้อย่างเหมาะสม

ประเมินพัฒนาการของเด็กว่าช้าไปหรือไม่

ประเมินภาวะสมาธิสั้น ออทิสติก บกพร่องการเรียนรู้

วัดระดับสติปัญญา (IQ) หรือความสามารถด้านเฉพาะ

ประเมินอารมณ์ ความเครียด ความวิตกกังวล หรือภาวะซึมเศร้า

ประเมินบุคลิกภาพและสภาพจิต

กิจกรรมบำบัด

ใช้กิจกรรมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษโดยนักกิจกรรมบำบัด เพื่อช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น การใช้มือ การเคลื่อนไหว การวางแผนการทำงาน รวมถึงการจัดการอารมณ์และสมาธิ

เหมาะสำหรับ

เด็กที่กล้ามเนื้อมือไม่แข็งแรง เขียนหนังสือยาก

เด็กที่เคลื่อนไหวไม่คล่อง วิ่ง กระโดด หรือทรงตัวไม่ดี

เด็กที่มีปัญหาสมาธิสั้น วอกแวกง่าย ไม่อยู่กับกิจกรรม

เด็กที่ควบคุมอารมณ์ไม่ดี ปรับตัวยากกับสิ่งใหม่ ๆ

เด็กออทิสติก หรือเด็กที่พัฒนาการช้ากว่าปกติ

ดนตรีบำบัด

ใช้เสียงเพลง จังหวะ หรือกิจกรรมเกี่ยวกับดนตรี เช่น ร้องเพลง เคาะจังหวะ ฟังเพลง หรือเล่นเครื่องดนตรี เพื่อช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ การสื่อสาร และความสามารถในการเข้าสังคมของเด็ก โดยมีนักดนตรีบำบัดเป็นผู้ออกแบบกิจกรรมให้เหมาะกับแต่ละคน

ประโยชน์ของดนตรีบำบัด

กระตุ้นการพูดและการสื่อสารในเด็กที่พูดช้า หรือไม่ค่อยตอบสนอง

ช่วยให้เด็กผ่อนคลาย จัดการอารมณ์ได้ดีขึ้น

เพิ่มสมาธิ และช่วยให้เด็กอยู่กับกิจกรรมได้นานขึ้น

ส่งเสริมความมั่นใจในตัวเอง

ช่วยให้เด็กกล้าแสดงออก และกล้าสื่อสารกับผู้อื่น

การรักษาด้วยยา

การรักษาด้วยยาทางจิตเวชช่วยฟื้นฟูสมดุลสารสื่อประสาทในสมอง ซึ่งส่งผลต่ออารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมของเด็กโดยตรง การใช้ยาสามารถช่วยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาโดยเฉพาะในผู้ที่มีอาการที่รุนแรงหรือเรื้อรัง และช่วยให้มีเตรียมความพร้อมในการรับการบำบัดในรูปแบบอื่น ๆ ได้มากขึ้น เช่น กิจกรรมบำบัด ฝึกพูด ดนตรีบำบัด