รู้สึกน้อยใจ..เมื่อถูกพ่อ-แม่พูดเปรียบเทียบกับคนอื่น
"เราก็ทำเต็มที่ที่สุด เท่าที่เด็กคนนึงจะทำได้แล้ว แต่ทำไมถึงยังมองว่าเราไม่ดีและเอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่น" คำพูดจากใครหลาย ๆ คนที่มักจะถูกพ่อ-แม่พูดเปรียบเทียบกับคนอื่น
วันนี้คุณหมอเอก นพ.พงศ์พิสุทธิ์ พูนสวัสดิ์พงศ์ จิตแพทย์ ประจำคลินิกจิตเวช Smind Mental Health Clinic ขอนแก่น จะมาชวนไขข้อสงสัยอาการน้อยใจที่เกิดขึ้น พร้อมกับแนะแนวทางในการจัดการกับอารมณ์ของตนเอง รวมถึงหากเปลี่ยนจากการพูดเปรียบเทียบกับคนอื่น พ่อ-แม่จะสามารถมีแนวทางพูดกับลูก ๆ อย่างไร เพื่อให้ครอบครัวเกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากที่สุด
คุณหมอเอก นพ.พงศ์พิสุทธิ์ พูนสวัสดิ์พงศ์ จิตแพทย์ ประจำคลินิกจิตเวช Smind Mental Health Clinic ขอนแก่น
ทำไมเราถึงรู้สึกน้อยใจ เวลาถูกเปรียบเทียบกับใครสักคน ?
หมอเอก - หากอิงตาม ทฤษฎีความต้องการของมนุษย์ ของ Maslow ความต้องการของมนุษย์แบ่งได้ตามพีระมิด กล่าวคือ ฐานที่ 1 การกิน การนอน เพศสัมพันธ์ เมื่อความต้องการพื้นฐานนี้ถูกตอบสนอง ความต้องการของเราก็จะขยับขึ้นมาเป็นฐานที่ 2 เรื่องความปลอดภัย เช่น มีเงินพอสำหรับใช้จ่าย มีบ้านสำหรับอยู่อาศัย และฐานที่ 3 การอยากถูกยอมรับจากคนรอบตัว"
"ดังนั้น การถูกเปรียบเทียบจึงเป็นการบอกทางอ้อมว่าเราด้อย หรือคนที่เปรียบเทียบเราไม่ยอมรับเรา ทำให้ความต้องการในฐานนี้ไม่ถูกตอบสนอง จนนำไปสู่ขั้นของความภาคภูมิใจในตัวเอง และเป้าหมายสูงสุดในชีวิต และหากเป็นมาเรื่อย ๆ ก็จะเริ่มลามลงมาข้างล่างทำให้รู้สึกว่าความมั่นคงในความสัมพันธ์ลดลง หรือไม่ปลอดภัย รู้สึกว่าบ้านไม่ใช่ที่พักใจ บางรายถึงขั้นมีอาการกินไม่ได้ นอนไม่หลับ หรือเครียด
พีระมิด ทฤษฎีความต้องการของมนุษย์ ของ Maslow
ภาพจาก danmartell
เมื่อถูกเปรียบเทียบ เรามักจะกดดันจากเหตุการณ์นี้ เราจะเปลี่ยนความกดดันนี้เป็นพลังบวกได้อย่างไร?
หมอเอก "ตามทฤษฎีของ Yerkes Dodson เกี่ยวกับศักยภาพและตัวกระตุ้น กล่าวไว้ว่า แรงผลักดันไม่ควรเกิดจากแรงกดดัน การที่เราจะเปลี่ยนแรงกดดันให้กลายเป็นพลังบวกได้ขึ้นอยู่กับพื้นฐานการคิดของแต่ละคนครับว่าถูกฝึกว่าแบบไหน หากถูกฝึกมาให้มองโลกในแง่บวก เคารพตัวเอง คิดว่าตัวเองมีศักยภาพ บางทีมีคนมาคอมเมนท์เรา เราจะรู้สึกว่าเค้าหวังดีและอยากให้เราพัฒนา เราจะสามารถแยกได้อันไหนจริงไม่จริง"
"แต่หากเด็กคนนั้นถูกกดดันมาเรื่อย ๆ และถูกฝึกให้มองโลกในแง่ลบ หรือถูกพ่อแม่ต่อว่ามาตลอด สิ่งเหล่านี้จะทำให้เด็กคนนั้นมีแนวโน้มที่จะมองว่าการถูกตำหนิหรือคอมเมนท์ เป็นเรื่องในเชิงลบทั้งหมด เพราะฉะนั้นอยู่ที่ว่ามุมมองของเราถูกฝึกมาแบบไหน และการเปลี่ยนก็มีหลายปัจจัยด้วยกัน เราต้องพยายามแยกให้ออกว่าอะไรคือแก่นสาระสำคัญที่อยากให้เราปรับปรุงตัว และอะไรคืออารมณ์ เพราะเวลามีคนมาต่อว่าหรือเปรียบเทียบมักจะมีการใส่อารมณ์เข้ามาด้วย บางทีเราสัมผัสได้แต่อารมณ์และต่อต้านคำตำหนินั้น หากเรามองวัตถุประสงค์ออกก็จะดีต่อเราในการนำมาพัฒนาตนเอง "
หากเราถูกกดดันจนรู้สึกทนไม่ไหวแล้ว เราควรบอกกับพ่อ-แม่ไปตรง ๆ เลยมั้ย และควรบอกอย่างไร?
หมอเอก "จริง ๆ เป็นเรื่องที่ควรบอก แต่วิธีการบอกต้องใช้วิธีการ แบบ I Messege คือ การพูดโดยที่ไม่โจมตีคู่สนทนา เช่น ผม/หนูรู้สึกไม่โอเค ผม/หนูรู้สึกแย่ที่ถูกเปรียบเทียบ และเราไม่ควรพูดว่า ทำไมแม่พูดแบบนี้ แม่ทำให้ผม/หนูรู้สึกแย่ เพราะฉะนั้น การบอกความรู้สึกตัวเองเป็นเรื่องที่ดี เพราะ 1. เรารู้ตัวเองว่าเราเป็นยังไง 2. คนอื่นเข้าใจเรามากขึ้น การพัฒนาความสัมพันธ์ในครอบครัวก็จะง่ายขึ้น"
พ่อ-แม่จะมีการเปลี่ยนวิธีพูดกับลูกอย่างไร โดยไม่ต้องเปรียบเทียบกับคนอื่น?
หมอเอก "ควรจะเริ่มต้นจากรูปแบบการสื่อสารเป็นอย่างแรกเลยครับ อาจจะเป็นการตั้งเป้าหมายร่วมกันในครอบครัว หรือบางทีการที่พ่อแม่เปรียบเทียบลูกกับคนอื่น อาจจะเกิดจากปมในใจของพ่อแม่เอง เช่น สมัยเด็กตนเรียนแข่งกับเพื่อนคนนี้ไม่ได้ พอมีลูกและบังเอิญว่าอยู่โรงเรียนเดียวกัน ก็จะเริ่มตั้งความหวังให้ลูกไปแข่งเพื่อกลบปมในใจตนเอง เพราะฉะนั้น ด้านพ่อแม่ควรต้องรู้ก่อนว่าการเปรียบเทียบไม่ใช่เรื่องดี ทำห้ลูกรู้สึกไม่เชื่อใจ รู้สึกแย่ที่พ่อแม่ทำ ต่อมาหากเปลี่ยนการเปรียบเทียบเป็นการตั้งเป้าหมายร่วม โดยเราต้องพูดกับลูกว่าเรามีเป้าหมายแบบนี้ลูกโอเคมั้ย อยากทำรึเปล่า และถ้าลูกอยากทำจะมีวิธีการอย่างไร เพื่อเป็นการรักษาความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวให้ได้มากที่สุด โดยปราศจากความกดดันภายในครอบครัว"
หลังจากได้อ่านบทสัมภาษณ์คุณหมอเอกแล้ว น้อง ๆ คงจะได้คำตอบแล้วใช่มั้ยคะ ว่าทำไมเราถึงรู้สึกน้อยใจ เมื่อถูกพูดเปรียบเทียบกับผู้อื่น และคุณหมอเอกยังแนะแนวทางในการเปลี่ยนแรงกดดัน เป็นพลังบวกให้กับน้อง ๆ อีกด้วย อย่าลืมนำกลับไปทำตามกันนะคะ ถึงแม้มันอาจจะยากสำหรับบางคนแต่ SMIND Clinic เชื่อว่าทุกคนทำได้ค่ะ บทสัมภาษณ์หน้าคุณหมอเอกจะมาพูดถึงหัวข้อใดอย่าลืมติดตามกันนะค้าา